วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เรียนอย่างไรให้ได้ A

เรียนอย่างไรให้ได้ A

เกือบทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ต่างก็ปรารถนาที่จะสอบได้เกรด A กันทั้งนั้น แต่ก็มีเพียงส่วนน้อยที่จะสามารถทำได้จริง เพราะถึงอย่างไร อาจารย์ก็ต้องแยกแยะความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็นระดับต่างๆให้ได้ จึงไม่สามารถให้ A แก่นักเรียนทั้งห้องได้ ในบทความนี้ ทางทีมงาน Great Assignment จึงอยากแบ่งปันวิธีการเรียนให้ได้ A แก่ผู้อ่าน ซึ่งมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้

1. ตั้งใจเรียนในห้อง

2. จับใจความสำคัญ

3. วางแผนอ่านหนังสือสอบ

4. ทำการบ้านด้วยตนเองทุกครั้ง

5. ทำแบบฝึกหัดสำหรับวิชาคำนวณ

6. ถามอาจารย์หรือเพื่อนเมื่อไม่เข้าใจ

7. อ่านทำความเข้าใจ

ในการที่จะได้อะไรมา ล้วนแต่ต้องมีการลงทุน ลงแรง อยากมีแฟน ก็ต้องลงมือจีบ ผู้หญิงที่สวย เก่ง มีสเน่ห์ ก็จะมีคนจีบเยอะ อยากได้เป็นแฟนก็ต้องพยายามมากเป็นธรรมดา หาอยากเรียนดี ก็ต้องมีความเอาใจใส่ ตั้งใจเช่นเดียวกัน แต่หากเป็นคนไม่เก่ง หัวไม่ดี ก็ต้องพยายามมากหน่อย แต่ผลที่ได้รับนั้นแสนคุ้มค่าในระยะยาว เพราะเวลาไปสมัครงานที่ไหน ตลอดชีวิต ก็ต้องใช้ Transcript ซึ่งก็จะมีเกรดเฉลี่ยแสดงอยู่ จริงอยู่ เกรดที่สูงไม่ได้เป็นสิ่งรับประกัน ว่าคนๆนั้นจะสามารถทำงานได้ดี ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่ง ที่แสดงถึงความเอาใจใส่ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ในขณะที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา อีกทั้งยังบ่งบอกถึงความสม่ำเสมอในความตั้งใจนั้น นอกจากนี้ หากเรามีพื้นฐานความรู้ที่ดี ก็จะช่วยให้เวลาทำงาน มีความเข้าใจในหลักการ อย่างไรก็ตาม Performance จะดีได้ ก็ต้องอาศัยการปรับตัว ประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนมา พากเพียร รอบคอบ เต็มใจที่จะเรียนรู้ และมีทักษะการทำงาน หรือที่เรียกว่า “ทำงานเป็น” นั่นเอง


เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 1 ตั้งใจเรียนในห้อง

การตั้งใจเรียนในห้องและจดใจความสำคัญ อาจถือได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ และได้ผลดี เพราะจะช่วยให้เราเข้าใจบทเรียนได้เป็นอย่างดีในขั้นต้น ซึ่งผู้เขียนเอง ก็ใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก และมีผลการเรียนที่ดีมาโดยตลอด เมื่อเราเข้าใจบทเรียนแล้ว เวลาทบทวนบทเรียน อ่านหนังสือสอบ หรือทำการบ้าน ก็ล้วนแต่ทำได้ง่ายขึ้นทั้งนั้น นอกจากนี้ ในเมื่อเราอยู่ในห้องเรียนแล้ว หากจะสนใจทำอย่างอื่น ก็ไม่สามารถทำได้เต็มที่ ในเมื่อเราได้ใช้เวลานั่งอยู่ในห้องเรียนแล้ว ก็ควรใช้เวลาในช่วงนั้นให้มีค่า เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยการสนใจ ตั้งใจกับสิ่งที่ดำเนินอยู่ นั่นคือ การเรียนนั่นเอง

เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 2 จับใจความสำคัญ

เนื้อหาที่เรียนหรืออ่าน แต่ละช่วง แต่ละประโยคต่างก็มีความสำคัญไม่เท่ากัน จนมีผู้กล่าวไว้เป็นกฎ 80:20 ว่า 20% ของเนื้อหา เป็น 80% ที่ออกสอบ นั่นคือ ในเนื้อหาที่เรียนหรืออ่าน มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่สำคัญ และถูกนำไปใช้ออกข้อสอบเป็นจำนวนมาก หากสามารถจับใจความสำคัญได้แล้ว ก็จะทราบว่าเนื้อหาส่วนไหนที่สำคัญ ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งก็จะช่วยให้เน้นอ่านได้ตรงจุดนั่นเองทั้งนี้ การที่จะจับใจความสำคัญได้ ก็ต้องมีสมาธิ ตั้งใจในการเรียน และการอ่านหนังสือนั่นเอง

เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 3 วางแผนอ่านหนังสือสอบ

การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย มีเนื้อหามากมายกว่าระดับประถม มัธยมมากมายนัก หากเราไม่มีการวางแผนเตรียมตัวที่ดี ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์อ่านหนังสือไม่ทันได้ ผลก็คือ อ่านหนังสือไม่จบ แต่ก็ถึงเวลาสอบแล้ว ซึ่งบางคน แม้จะมีระดับสติปัญญาที่ดี แต่ไม่ได้วางแผนการอ่านหนังสือไว้ แล้วอ่านไม่ทัน ก็ทำให้คะแนนสอบออกมาไม่มาก (เมื่อเทียบกับความสามารถ) ก็มี


เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 4 ทำการบ้านด้วยตนเองทุกครั้ง

ข้อนี้ สำหรับผู้เขียนแล้ว ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะสาเหตุที่อาจารย์ให้การบ้านกับเรา ก็เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทบทวน หรือฝึกหัด ซึ่งหากเราไม่ได้ฝึกหัด ลอกการบ้านเพื่อนส่งแล้ว จะมีผลต่อเวลาทำข้อสอบ คิดไม่ออก ไม่ทราบว่าต้องทำวิธีไหน ตอบยังไง จึงทำข้อสอบไม่ได้ หรือหากทำได้ ก็ใช้เวลามากกว่าที่ควร ซึ่งก็จะทำให้ทำข้อสอบได้ไม่ทัน เสียคะแนนไปนั่นเอง

เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 5 ทำแบบฝึกหัดสำหรับวิชาคำนวณ

ทั้งนี้ เนื่องจากในวิชาคำนวณ ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ ในการตีโจทย์ และคิดคำนวณคำตอบที่ถูกต้อง การฝึกฝนที่เพียงพอจึงสามารถช่วยให้ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น ทราบว่าโทย์แบบนี้ต้องแก้อย่างไร และคิดคำนวณออกมาได้อย่างแม่นยำ ในการเรียนระดับอุดมศึกษา หรือแม้กระทั่งระดับเตรียมอุดมศึกษาบางแห่ง อาจารย์จะไม่ค่อยให้การบ้านนักเรียนมากนัก เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา นักเรียนจึงต้องซื้อหนังสือข้อสอบมาหัดทำเอง ซึ่งก็มีผลโดยตรงต่อคะแนนสอบที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว หากไม่มีข้อสอบเก่าให้ได้ฝึกทำ ก็ควรฝึกทำตัวอย่างต่างๆที่อาจารย์สอน และการบ้านที่อาจารย์เคยให้ไว้นั่นเอง นอกจากนี้ การทำการบ้าน หรือการทำแบบฝึกหัด ยังมีส่วนช่วยให้เราทราบว่ามีตรงไหนที่เราไม่เข้าใจ จะได้ทำความเข้าใจ หรือถามเพื่อนจนทราบวิธีทำ และคำตอบที่ถูกต้องด้วย


เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 6 ถามอาจารย์หรือเพื่อนเมื่อไม่เข้าใจ

บางอย่างที่เราสงสัยหรือไม่เข้าใจ เพื่อนทราบและสามารถตอบเราได้ แต่หากเพื่อนไม่ทราบ ก็ควรที่จะลองถามอาจารย์ เพื่อให้มีความเข้าใจในสิ่งที่สงสัยมากขึ้น นอกจากนี้ การสอบถามยังเป็งเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจอย่างหนึ่งด้วย

เรียนอย่างไรให้ได้ A

ส่วนประกอบที่ 7 อ่านทำความเข้าใจ

การอ่านทำความเข้าใจถือเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เนื้อหามีความยากและซับซ้อนขึ้น จึงควรทำความเข้าใจกับสิ่งที่อ่าน จะช่วยให้เราเข้าใจในเนื้อหาที่ยากๆได้ คนเรียนเก่งจะรู้จักทำความเข้าใจบทเรียนจน get ต่างกับคนทั่วๆไป ที่เวลาเรียนเรื่องยากๆก็จะไม่เข้าใจและทำข้อสอบไม่ได้ เพราะไม่สามารถอ่านทำความเข้าใจได้นั่นเอง ซึ่งการที่จะทำความเข้าใจได้ ก็ต้องมีความตั้งใจอ่านนั่นเอง (และอาจต้องใช้ความพากเพียรด้วย) ส่วนการอ่านทบทวนบทเรียนที่เรียนมาแล้ว เช่น วันนี้เรียนเรื่อง Tense พอคืนนั้น หรือวันเสาร์-อาทิตย์ก็อ่านทบทวนเรื่อง Tense เลย ก็เป็นสิ่งที่ดี จะช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้มากขึ้น และง่ายต่อการอ่านหนังสือเตรียมสอบ ใช้เวลาอ่านหนังสือสอบน้อยลง